•ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล ใช้เวลานานหรือไม่??
หลังฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล?ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดและยี่ห้อโบท็อกครับ โบท็อกลดริ้วรอย ลดกราม จะใช้เวลาเห็นผลไม่เท่ากัน หลังฉีดโบท็อกริ้วรอย หางตา หน้าผาก ขมวดคิ้ว และลิฟท์กรอบหน้า ประมาณ 3-4 วัน จะพบว่าบริเวณที่ฉีดเริ่มตึงขึ้น โบท็อกแท้จะตึงเต็มที่เห็นผลใน 1-2 อาทิตย์
ส่วนตรงกรามกี่วันเห็นผล ขึ้นอยู่กับขนาดกรามด้วย จะใช้เวลานานกว่าฉีดริ้วรอย คือ 1 อาทิตย์ จะเริ่มกัดฟันแล้วพบว่ามีกรามเด้งออกมาเพียงเล็กน้อย พอ 2 อาทิตย์ จะพบว่ากัดฟันแล้วไม่เด้งเลย โดยจะเห็นผลว่ากรามยุบเต็มที่ใช้เวลา 1-2เดือน
โบท็อกอยู่ได้ 3-4 เดือน แต่ว่าการที่เราทำให้ผิวไม่พับในระยะหนึ่ง ชั้นผิวจะหนาขึ้น บางเคสก็อาจจะอยู่ได้ 5-6 เดือน แต่ไม่ถึงปี ซึ่งจริง ๆ แล้วกล้ามเนื้อจะคลายตั้งแต่ 3-4 เดือน แต่ที่รอยยังไม่ค่อยกลับมา เป็นเพราะว่าชั้นผิวของเราเมื่อไม่มีรอยพับนาน ๆ แล้วจะพับยากขึ้น
ที่หมอแนะนำก็คือสามารถฉีดโบท็อกได้ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป สำหรับกรามถ้างบน้อยก็ฉีดเมื่อครบ 1 ปีได้เลย เมื่อโบท็อกลดกรามหมดฤทธิ์ 6 เดือน กรามจะยังไม่ได้กลับมาใหญ่เท่าเดิม ต้องใช้เวลาในการที่เราเคี้ยวไปเรื่อย ๆ พอกล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงาน เวลาเราเคี้ยวมันก็กลับมาโตขึ้น เหมือนเวลาเรายกเวทก็จะใช้เวลาประมาณปีนึงถึงจะคืนสภาพเดิม
โบท็อกสลายเร็วเพราะอะไร ?
ปัจจัยหลักที่ทำให้โบท็อกสลายเร็ว คือ ความร้อนและการไหลเวียนของเลือด (Metabolism)นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหมอถึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด หรืองดทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด โดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีด (หากทำไม่ได้ควรเว้นอย่างน้อย 48 ชม.หลังฉีด) เช่น เข้าซาวน่า, ตากแดด, ดื่มแอลกอฮอล์, เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF thermage งดนอนคว่ำ, งดก้มหัวต่ำกว่าอก
ในกรณีที่คนไข้ฉีดโบท็อกไปแล้ว 2 อาทิตย์ กิจกรรมที่หมอได้กล่าวไปในข้างต้น อาจส่งผลต่ออายุของโบท็อกได้บ้างเล็กน้อย แต่ไม่มากจนถึงขนาดต้องงดไปเลย ที่มีผลมากที่สุดและหมอแนะนำให้เลี่ยงไปก่อน คือ การเข้าซาวน่าและเลเซอร์ร้อน ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องงดก็ได้ สามารถทำได้ปกติ อย่างเช่นการออกกำลังกาย อาจมองว่าไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ที่คนไข้จะงดออกกำลังกายเพื่อทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น เพราะการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพ แค่หลีกเลี่ยงความร้อนเท่าที่ทำได้ก็พอ
ผู้หญิงกับผู้ชายผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่ากันไหม?
การฉีดโบท็อกซ์ผู้ชาย กับฉีดโบท็อกซ์ผู้หญิงไม่แตกต่างกัน ทั้งในด้านของตัวยาที่ใช้และขั้นตอนการฉีด เพียงแต่อาจจะต่างกันบ้างเล็กน้อยในเรื่องความต้องการของผลลัพธ์และปริมาณโบท็อก
ส่วนใหญ่ผู้ชายจะใช้ปริมาณโบท็อกซ์มากกว่าผู้หญิง เนื่องจากมัดกล้ามเนื้อใหญ่กว่าและริ้วรอยมักจะลึกกว่าผู้หญิง ขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อและปริมาณริ้วรอยของแต่ละคนด้วยครับ แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถแนะนำคนไข้ได้ว่า ควรฉีดโบท็อกกี่ยูนิต จึงจะได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง