ทำความรู้จัก Filler ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าสู่ใต้ผิวหนัง เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนยาน หลุมรอยแผลเป็นปรับทรงหน้าและเครื่องหน้า อีกทั้งยังทำให้ใบหน้าชุ่มชื้นขึ้นได้ด้วย

โดยสารที่ใช้ฉีดเป็นฟิลเลอร์ จะเป็นสารที่มีชื่อว่า “กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid)” ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ทำขึ้นมาเลียนแบบกรดไฮยาลูโรนิกที่เป็นส่วนประกอบของผิวหนังคนเราอยู่แล้ว ทำให้การฉีดกรดไฮยาลูโรนิกเป็นฟิลเลอร์นั้นค่อนข้างปลอดภัย เสี่ยงแพ้ได้น้อย ทั้งยังสลายไปเองได้โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในผิวด้วย

การฉีดฟิลเลอร์จะไม่ได้ให้ผลการรักษาที่ถาวร เนื่องจากร่างกายของเราจะสลายฟิลเลอร์ไปเอง จนทำให้ผลการรักษาหายไปภายในเวลาประมาณ 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับพันธะในฟิลเลอร์ที่ฉีดไป และระบบเผาผลาญ (Metabolism) ในร่างกาย

นอกจากกรดไฮยาลูโรนิกแล้ว สารเติมผิวอย่างฟิลเลอร์ยังเป็นสารตัวอื่นๆได้อีก เช่น Calcium hydroxylapatite, Polyalkylimide, Polylactic acid, และ Polymethyl-methacrylate microspheres (PMMA) ซึ่งสารเหล่านี้ บางตัวให้ผลการรักษาที่นานกว่าฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิก เพราะร่างกายสามารถย่อยสลายได้ไม่ดี ทำให้ผลการรักษาอาจอยู่ได้นานมากกว่า 2 ปี

แต่สารที่ใช้ฉีดเป็นฟิลเลอร์เหล่านี้ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (อย.) เนื่องจากสารเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้มากกว่า ทั้งยังสามารถทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกายได้ สารบางตัวก็ไม่สามารถสลายไปได้หมด ทำให้เมื่อต้องการแก้ไขผลการรักษา จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อนำออกมาเท่านั้น จึงจะเห็นได้ว่าฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิกที่สลายไปเองได้นั้น ปลอดภัยกว่ามาก

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ คือสามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย และสามารถปรับทรงหน้าหรือเครื่องหน้า ทั้งหน้าผาก ขมับ คาง โหนกแก้ม หรือจมูกได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

อีกทั้งผลการรักษาที่ไม่อยู่ถาวร ยังทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาดูเป็นธรรมชาติ เพราะเมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายและกลับมาเติมฟิลเลอร์ที่สถานพยาบาล แพทย์จะสามารถปรับวิธีการฉีดให้เข้ากับใบหน้าในช่วงนั้นๆ ได้

นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังไม่ทิ้งสารตกค้างไว้หลังผลการรักษาหายไป และหากไม่พอใจผลการรักษา สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อทำให้ผิวกลับมาเป็นแบบเดิมได้โดยไม่ต้องผ่าตัดเลย

โบท็อกซ์คืออะไร??
โบท็อกซ์ (Botox) คือสารที่ใช้ฉีดเข้าสู่ผิวหนังเพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดทำงานได้น้อยลง มีจุดประสงค์เพื่อทำให้รอยเหี่ยวย่นลดลง และลดขนาดกล้ามเนื้อในบริเวณดังกล่าว

โดยสารที่ใช้ฉีดเป็นโบท็อกซ์ เป็นเอนไซม์ชื่อว่าโบทูลินั่มท็อกซินเอ ( Botulinum toxin) ซึ่งเป็นสารพิษที่ได้มาจากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) การทำโบท็อกซ์ จะทำโดยการนำสารพิษดังกล่าวมาเจือจางและทำให้บริสุทธิ์ เมื่อฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อ สารพิษดังกล่าวจะไปจับกับเส้นประสาท และลดการทำงานของเส้นประสาทภายในกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อขยับได้น้อยลง หรือมีขนาดที่เล็กลงนั่นเอง

ผลการรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้อยู่อย่างถาวรเช่นกัน แต่จะอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน ก่อนที่กล้ามเนื้อจะกลับมาเป็นปกติ แต่แพทย์ไม่แนะนำให้เติมโบท็อกซ์บ่อยจนเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายร่างกายต่อต้านเชื้อโบท็อกซ์ จนไม่สามารถเห็นผลการรักษาหลังฉีดได้

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ คือโบท็อกซ์สามารถช่วยลดการเกิดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ได้ อีกทั้งยังสามารถแก้ไขกรามที่ใหญ่เกินความต้องการได้โดยไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วย

Botox ช่วยในเรื่องอะไรบ้าง?

โบท็อกซ์สามารถช่วยลดการเกิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ที่ต้องขยับกล้ามเนื้อ อย่างการยิ้ม การหรี่ตา หยีตา หรือการยักคิ้วและขมวดคิ้วจนทำให้เกิดรอยตีนกา รอยย่นเลข 11 บริเวณหว่างคิ้ว รอยขีดบนหน้าผาก รอยร่องแก้ม และอื่นๆ

นอกจากนี้ โบท็อกซ์ยังสามารถช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้ โดยบริเวณที่นิยมฉีดกันคือบริเวณสันกราม ทำให้หน้าเล็ก และหน้าเรียวขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด

แต่โบท็อกซ์ไม่สามารถช่วยลดรอยเหี่ยวย่นได้ในกรณีที่รอยเหี่ยวย่นเกิดจากโครงสร้างของผิวหนัง และกระดูกใบหน้าเปลี่ยนแปลง จากอายุ แสงแดด และปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ เนื่องจากโบท็อกซ์ออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อเท่านั้น และจะไม่ออกฤทธิ์ช่วยแก้ปัญหาใดๆ เกี่ยวกับผิวหนัง