หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันทาลิปได้ ทาลิปทันทีเลยได้ไหม จริงๆ แล้วหลังฉีดปากจะมีรอยเข็มอยู่ซึ่งทำอาจให้ติดเชื้อ เกิดอาการอักเสบ และทำให้ปากบวมมากขึ้นได้หากทาลิปสติกทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จึงควระมัดระวังการทาลิปหลังฉีดปาก
หลังฉีดปากกี่วันทาลิปได้
หลังฉีดปากควรงดทาลิปหลังฉีดปาก 1 วัน เพราะอาจติดเชื้อได้ หลังจากนั้นสามารถทาลิปได้ตามปกติแต่ควรเป็นลิปสติกที่ล้างออก เช็ดออกได้ง่าย ถ้าเป็นลิปสติกที่ล้างออกยากอย่างลิปแมทแนะนำเป็น 2 สัปดาห์หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะถ้าไปโดนริมฝีปากแรงๆ ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนที่ เสียทรงได้ เนื่องจากฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี
ถ้าใครที่จำเป็นต้องทาลิปหลังฉีดปากทันทีก็สามารถทาลิปได้ แต่ต้องระวังอย่ารุนแรงกับริมฝีปากมากเกินไป และต้องระมัดระวังการไปโดนบริเวณรอยเข็มด้วย
7 ข้อปฏิบัติควรรู้ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายหลังฉีด
ใครที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อเพิ่มความมั่นใจจากการที่มีริมฝีปากบาง ปากเริ่มมีริ้วรอย หรือยกปากปรับรูปหน้าใหม่ มาถึงตอนนี้คุณอยากรู้แล้วว่าหลังฉีดฟิลเลอร์มาแล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไร รวมถึงมีอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อช่วยให้ผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์ปากออกมาดีและเห็นผลไวมากที่สุด ในบทความนี้จะมีทุกสิ่งที่คุณควรรู้หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก หากทำตามที่เราแนะนำ มั่นใจได้เลยว่าปากของคุณจะกลับมาสวยได้รูป มีความชุ่มชื้น และเรียบเนียนแบบเป็นธรรมชาติได้แน่ ๆ
หลังฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วควรดูแลตัวเองอย่างไร?
เพื่อให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ปากออกมาดีที่สุด รวมถึงป้องกันไม่ให้คุณได้รับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ต่อจากนี้ไปเราจะมาแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อให้คุณได้ปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง
1. ห้ามดื่มน้ำด้วยการใช้หลอดดูดหรือสูบบุหรี่
เพื่อให้ริมฝีปากที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ออกมาได้รูปทรงที่สวยงามและเข้าที่ตามที่คุณหมอได้วางแผนไว้ ให้คุณงดการดื่มน้ำโดยการใช้หลอดดูด หรือสูบบุหรี่ ไปจนถึงการแสดงความรักกับคู่ของคุณด้วยการจูบอย่างเด็ดขาด แนะนำว่าให้งดพฤติกรรมเหล่านี้ประมาณ 12 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นปากที่ทำมาอาจเสียรูปทรงได้
2. ห้ามสัมผัสบริเวณริมฝีปาก รวมถึงการนวดหรือคลึงก็ไม่ได้
เก็บมือแสนซนของคุณไว้ให้ดี ๆ แล้วท่องไว้ว่าอย่าไปจับโดนริมฝีปากที่คุณหมอเพิ่งฉีดฟิลเลอร์ปั้นรูปปากมาให้ เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วจะยังมีรอยเข็ม รอยช้ำ รวมถึงฟิลเลอร์ที่เข้าฉีดเข้าสู่ปากอาจยังไม่เข้าที่ดี เกิดไปสัมผัสโดนก็มีสิทธิ์ทำให้ริมฝีปากผิดรูปเสียทรงได้ใครที่ใจร้อนก็ขอให้อดทนรอประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นอาการบวมที่บริเวณปากจะค่อย ๆ ยุบและเห็นทรงริมฝีปากที่สวยขึ้นเรื่อย ๆ แต่หากคุณเริ่มรู้สึกระคายเคือง บวม ปวด ไม่หายเป็นปกติภายใน 3 วัน ควรรีบไปหาแพทย์เพื่อดูอาการและให้ยามาเพิ่ม
3. ห้ามลอกหรือดึงหนังที่ริมฝีปาก
สาว ๆ คนไหนเห็นสะเก็ดแผลหรืออะไรหลุดลอกไม่ดี ขอให้ห้ามใจตัวเองไว้ดี ๆ เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วให้งดการแกะ ลอก หรือดึงหนังริมฝีปากให้หลุดออกมาเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการทำให้ริมฝีปากมีแผลและทำให้ไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ และส่งผลให้ปากแตก แห้ง และเสียรูปทรงนั่นเอง
4. ห้ามดื่มอะไรร้อน ๆ และหลีกเลี่ยงการโดนแดด
48 ชั่วโมงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก จำไว้ให้ขึ้นใจว่าคุณควรงดการดื่มเครื่องดื่มร้อน ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ หรืออาหารต้มผัดแกงทอดที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ เนื่องจากริมฝีปากของคุณมีความไวต่อความร้อนมากเป็นพิเศษ ซึ่งความร้อนนั้นเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณริมฝีปาก ทั้งบวม แดง และเป็นผื่น รวมถึงทำให้ปากสูญเสียความชุ่มชื้นจนเกิดอาการเจ็บและอักเสบตามมาได้นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงการโดนแดดกลางแจ้งที่ส่งผ่านความร้อนมาสู่ริมฝีปากของคุณโดยตรง รวมถึงการอบซาวน่า การทำกับข้าว และกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่อยู่ในพื้นที่ร้อน ๆ เพราะทั้งหมดที่กล่าวมาจะทำให้ผิวหนังที่ริมฝีปากเกิดการยืดหรือหดตัว และส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ที่เพิ่งฉีดเข้าไปนั่นเอง
5. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
14 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก ให้คุณเตือนสติตัวเองเสมอว่า ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นสุรา เบียร์ ไวน์ วอดก้า วิสกี้ โซจู หรือแม้แต่สาเกโดยเด็ดขาด เพราะแอลกอฮอล์ที่คุณดื่มเข้าไปจะขยายหลอดเลือดให้มีการสูบฉีดเลือดมากขึ้น นั่นหมายความว่าอาการบวมที่ริมฝีปากก็จะหายช้าลงกว่าปกติ นี่ยังไม่นับโอกาสที่คุณอาจเมาจนเผลอไปทำอะไรที่เสี่ยงต่อการที่ริมฝีปากจะผิดรูปเสียทรงอีกต่างหาก
6. ห้ามกินอาหารหรืออาหารเสริมบางชนิด
สำหรับคนที่กินอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ วิตามินอี, ขิง, กระเทียม, น้ำมันอีฟนิงพริมโรส หรือแปะก๊วย รวมถึงยาแอสไพริน ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID เหล่านี้ทั้งหมดขอให้คุณงดโดยเด็ดขาดทั้งก่อนและหลังจากที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์มา เพราะอาหารและยาเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด และส่งผลให้ริมฝีปากที่ฉีดฟิลเลอร์มามีโอกาสช้ำได้ง่ายกว่าปกติ
7. ห้ามกำจัดขนหรือแว็กซ์บริเวณรอบริมฝีปาก
ข้อนี้เป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับการงดสัมผัสฝีปากมาก ๆ เพราะหากคุณแว็กซ์หรือถอนขนที่ใกล้ ๆ กับริมฝีปากที่ฉีดฟิลเลอร์มาก ก็มีสิทธิ์ไปโดนจนทำให้ปากมีการบาดเจ็บหรืออักเสบขึ้นมาได้ง่าย ๆ ดังนั้นให้งดกำจัดขนด้วยวิธีต่าง ๆ ในบริเวณรอบริมฝีปากไม่ก่อนสักระยะจะดีที่สุด
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
* หลีกเลี่ยงการกินอาหารหมักดองหรืออาหารดิบ
ด้วยความที่อาหารดิบไม่ได้ผ่านการปรุงให้สุก นั่นจึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะมีพยาธิเจือปนอยู่ในอาหารดังกล่าว และพยาธิบางตัวก็อาจเข้าไปทำให้เกิดอาการอักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์ปากได้ ส่วนอาหารที่ผ่านการหมักดองมานั้นมีแนวโน้มสูงที่จะไม่ได้ผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีที่มีความสะอาด ซึ่งอาจนำพาเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายของคุณจนไปกระตุ้นให้จุดที่ฉีดฟิลเลอร์เกิดการอักเสบได้เช่นกัน
* หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสจัด
สาว ๆ คนไหนชื่นชอบการกินส้มตำ ยำ หรืออะไรก็ตามที่มีรสเค็มจัดและเผ็ดจัด หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วประมาณ 3-7 วัน ขอให้หลีกเลี่ยงไปก่อน เพราะอาหารเหล่านี้มีโซเดียมสูงจนทำให้ร่างกายรู้สึกกระหายน้ำและมีการเก็บสะสมน้ำเพิ่มขึ้น จนทำให้ใบหน้ารวมถึงลำตัวดูบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งบริเวณที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ปากมาก็จะบวมหนักไม่แพ้กัน
ยิ่งไปกว่านั้น อาหารที่มีรสหวานจัดก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรกินหลังฉีดฟิลเลอร์ปากอีกด้วย เพราะน้ำตาลจะเข้าไปกระตุ้นให้ผิวเกิดอาการอักเสบจนแผลหายได้ช้าลง
* หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ปากมาแล้วห้ามคุณดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็นสุรา เบียร์ ไวน์ วิสกี้ โซจู วอดก้า หรือแม้แต่สาเก รวมถึงควรงดการดื่มให้ได้ 2 สัปดาห์จะดีที่สุด เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปขยายหลอดเลือดและกระตุ้นให้มีการสูบฉีดเลือดเพิ่มขึ้น จนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ปากมีอาการเจ็บปวดหรือรู้สึกว่าบวมแดงขึ้น
นอกจากนี้ การดื่มของมึนเมามาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดการขาดสติจนเผลอเอามือไปจับหรือมีอะไรมากระแทกบริเวณปากที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ได้โดยไม่รู้ตัว จนทำให้ฟิลเลอร์ปากเกิดการผิดรูปและประสิทธิภาพลดลงจนอาจถึงขั้นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไข
* หลีกเลี่ยงการทาลิปสติก
ใครที่อยากเติมปากให้ดูสวยฉ่ำฟังนี้ทางนี้ก่อน เพราะหลังฉีดฟิลเลอร์ปากมาแล้วคุณควรงดทาลิปสติกไปเลย 12 ชั่วโมง เพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการอักเสบของบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ และหลังจากที่ผ่านชั่วเวลาดังกล่าวมาแล้วก็เริ่มทาลิปสติกได้ เพียงแต่ต้องค่อย ๆ ทาอย่ากดแรงเกินไป